Propaganda

Propaganda

ร้านขายของดีไซน์แห่งแรกในเมืองไทย เป็นธุรกิจของคนไทยแท้ที่เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของเพื่อนฝูงกันที่อยู่ในแวดวงโฆษณาและออกแบบ ดีไซน์มาก่อนซึ่งมีความชื่นชอบสินค้าประเภทนี้เหมือนกัน บวกกับ ความต้องการที่จะลบคำสบประมาท ที่ชาติอื่นที่ว่าคนเอเชียชอบก๊อบปี้ของคนอื่นไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง จึงเป็นที่มาของการรวมกลุ่ม กันเพื่อสร้างงานดีไซน์ขึ้นมาด้วยมันสมองของคนไทย จากจุดเริ่มต้นของความต้อง การ ณ

วันนั้นจึงเป็นที่มาของการก่อตั้งบริษัทตั้งแต่ปี 2537 ปี หลายคนถือว่าของดีไซน์ ไม่ใช่ของจำเป็นในชีวิต แต่นิยามความจำเป็นของทุกคนย่อมต่างกันไป

บางครั้งคนเราอาจเลือกซื้อของที่ไม่จำเป็น เช่น ของดีไซน์ส

วยให้กับตัวเองและคนรอบข้างเพื่อเป็นรางวัลชีวิต Prop

aganda ถือว่าตนเองเป็นรางวัลของชีวิตของผู้ซื้อ สินค้า Propaganda อาจไม่มีความจำเป็นเหมือนปัจจัย 4 แต่เป็นการเพิ่มคุณค่าทางด้านจิตใจให้กับผู้ซื้อ

ในยุคแรก ร้าน Propaganda นำเข้าสินค้าดีไซน์จากต่าง

ประเทศ และนำสินค้า อย่างแก้วน้ำ จาน ชาม หมวกคลุมผม มาใส่ดีไซน์ เพิ่มกราฟฟิคเข้าไปในตัวสินค้า เพื่อให้สินค้าเหล่านี้สามารถ Communicate กับผู้ใช้ได้ เช่น เมื่อเห็นสินค้าแล้วอาจเกิดอารมณ์ขัน หรืออาจต้องเก็บไปคิดต่อ การเพิ่ม Emotional Approach เข้าไป ทำให้สินค้าใ

นร้าน Propaganda ไม่ใช่สินค้าธร

รมดาๆ ที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป

กราฟิกดีไซน์ สู่โปรดักส์ดีไซน์

Propaganda เริ่มต้นด้วยเป็นคนกลุ่มคนแรกๆที่การกล้าทำ

สินค้าธรรมดาที่ใช้ในชีวิตประจำวันเช่นแก้วน้ำ จาน ชาม

หมวกคลุมอาบน้ำ หรือแม้กระทั่งปลอกหมอน ขายในราคาแพง และมุ่งตลาดต่างประเทศ โดยใช้ความโดดเด่นของงานกราฟิกดีไซน์ มาใส่บนรูปฟอร์มที่มีอยู่แล้ว
กระแสโลกในยุคนั้น ผู้คนกำลังเบื่อสิ่งของที่เป็นเหตุเป็นผ

ลมีดีไซน์ที่ตรงไปตรงมา ช่วยกระพือให้แบรนด์นี้เกิดได้เร็วขึ้น จนต่อมางานกราฟิกดีไซน์เริ่มมีมากขึ้น จนกระทั่งสินค้าประเภทนี้มีให้เห็นอยู่เกลื่อนตลาดทั้งในไทยและต่างประเทศ เนื่องจากงานกราฟิกเป็นงานที่ทำกันได้ง่าย คิดกันได้ง่า

ยเพียงแต่ว่าความคิดของใครจะเจ๋ง กว่ากันเท่านั้น ซึ่งหากเ

ป็นเช่นนี้ต่อไป อนาคตของ Propaganda ก็คงอยู่ได้อีกเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น ดังนั้นเมตตาและทีมดีไซเนอร์จึงมีความเห็นตรงกันว่า "Propaganda ต้องเปลี่ยนแนวทางเดินใหม่" ซึ่งแนวทางนั้น

คือ การเปลี่ยน จาก "กราฟิกดีไซน์" มาเป็น "โปรดักส์ดีไซน์" เพื่อยืดอนาคตให้แก่ "Propaganda" และหนีจากการถูกลอกเลียนแบบสินค้า
Propagandaจึงหันมาดีไซน์รูปทรง ของตัวเอง (Original

Form) โดยไม่พึ่งงานกราฟิกอีกต่อไป ซึ่งการทำงานจึงยากขึ้น เพราะต้องคิดสินค้าใหม่ขึ้นมาเองภายใ

ต้คอนเซ็ปต์ของPropagandaเอง

Mr.P และ dog lamp ต่อชีวิตให้กับแบรนด์ อีกครั้ง

รากเหง้าทางความคิดของ Propaganda ที่มีอารมณ์ขันกลับมา สร้างความฮือฮาในวงการออกแบบอีกครั้งเมื่อ One Man Shy โคมไฟร่างผู้ชายเปลือยกายมีฝาครอบศีรษะ มีปุ่มสวิตช์อ

ยู่ที่อวัยวะเพศ เปิดตัว ครั้งแรกในปี 2545 และหลังจากนั้นสินค้าชุด Mr.P.ก็กลายเป็นสินค้าขายดีจนต้องออก คอล เลคชั่นต่างๆอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันเป็นการสื่อสารทางด้านอารมณ์ของดีไซน์เนอร์ผ่านตัวสินค้าที่ชาญฉลา

ด เพราะ สามารถสะท้อนด้านมืดที่อยู่ในตัวคนที่หลายคนเลี่ยงที่จะไม่พูดถึง ด้วยวิธีการดีไซน์ที่น่ารัก และแฝงไปด้วยอารมณ์ขัน ที่ทุกคนเห็นแล้วต้องอมยิ้ม หรือระเบิด เสียงหัวเราะออกไป เป็นสินค้าชุดหนึ่งที่ถูกก้อปปี้อย่างหนักเหมือนกัน
การหลีกหนีความจำเจของแบรนด์นี้ไปหยุดอีกครั้งที่ Dog lamp โ

คมไฟรูปสุนัข ที่ดึงเอาอารมณ์ความรู้สึกแบบไทยๆออกมาดีไซน์เป็นสินค้า
“คนไทยรักสุนัข และแสดงออกด้วยการลูบหัวมัน ลูบครั้งหนึ่งมันก็รักเรามากขึ้น ไฟก็สว่างขึ้น แทนการกดสวิซท์ปิด-เปิด เมื่อรักมากก็ลูบอีก ไฟก็สว่างขึ้นมาอีก เป็นการออกแบบที่สื่อสารกันแบบตรงๆซื่อๆ ที่คนยุโรป ไม่ทำไม่คิดหรอก”
สินค้าของPropagandaล้วนให้ความรู้สึก "Sense of Humor" ที่บ่งบอกถึง "อารมณ์ขัน" "ความคาดไม่ถึง" และ "ความฉลาดของผู้ใช้" เป็นโจทย์หลักที่ดีไซเนอร์ทุกคนใช้ในการส

ร้างสรรค์สินค้าออกมา ปัจจุบัน Propaganda ไม่ได้หยุดตัวเองไว้เป็นเพียง Product Design แต่กลายเป็น Everyday Living สำหรับผู้คนไปแล้ว

Brand Awareness

• มีหน้าร้านของตนเอง รวมถึงช่องทางจำหน่ายอื่นๆในห้างสรรพสินค้า ซึ่งถือเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคจะมีโอกาสได้พบเห็นแบรนด์บ่อยขึ้น ส่วนการตกแต่งหน้าร้านจะเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด ดิสเพลย์หน้าร้านจะเปลี่ยนทุกๆเดือน เพื่อให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมารับรู้ถึงแบรนด์ และจดจำแบรนด์ได้ (การจัดหน้าร้านการจัดบูท หรือว่าการจัด Display ก็เป็นจุดหนึ่งที่ใช้เรียกลูกค้า และดึงความสนใจ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้กับตัว Propaganda โดย display ของเราจะมี 2 อย่าง อย่างแรกก็คือเป็นลักษณะของ Showcase คือการจัดวางสินค้าอย่างไรให้ดูน่าสนใจ ส่วน display อีกอย่างหนึ่งจะเป็น Installation Art ที่เคยทำก็เป็นรูปตัวคนสมองไหล กับคนหัวติดกับเพดาน ในต่างประเทศ เราพยายามที่จะจัดสินค้าของ Propaganda ให้อยู่ในบริเวณเดียวกัน โดยจะทำเป็น corner ของ propaganda โดยเฉพาะ แต่ก็มีบางส่วนที่ไปออกงานแสดงสินค้า แล้วทางต่างประเทศก็ใช้อุปกรณ์ในบูททำเป็น display โชว์สินค้าของ propaganda ไปเลย)

• ทำ Corporate Image ทุกสิ่งต้องเป็นไปในทางเดียวกัน เริ่มตั้งแต่การการโฆษณา การตกแต่งหน้าร้าน เป็นต้น

• เปิดงานแสดงสินค้าที่ประเทศฝรั่งเศส รวมถึงการเปิดงานแฟร์ระดับนานาชาติมนต่างประเทศ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างดีจาก Distributorใหญ่ในยุโรป และแม้ว่าในตอนแรก ชาวต่างชาติจะมีความคาดหวังด้านงานดีไซด์ที่มาจากเมืองไทยอยู่ระดับค่อนข้างต่ำ แต่Propagandaก็สามารถพิสูจน์ดีไซด์และคุณภาพให้ชาวต่างชาติยอมรับ มีผลให้สื่อต่างประเทศหันมาสนใจประโคมข่าวอย่างต่อเนื่อง จนสื่อไทยหันมาร่วมด้วยช่วยกัน

• มีตัวแทนจำหน่ายอยู่ในประเทศต่างๆ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม อิตาลี อเมริกา ฮ่องกง ไต้หวัน และญี่ปุ่น
• สร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในแวดวงผู้ชื่นชอบการดีไซด์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
• มียอดขายกับลูกค้าต่างประเทศถึง80% ซึ่งหมายถึงสินค้าจะออกสู่สายตาชาวโลกในสัดส่วนที่มากขึ้นตามไปด้วย
• สร้างโครงการด้านดีไซด์ขึ้นมา เช่น โครงการ Young Designer Award ร่วมกับ นิตยสารElle Decoration สร้างดีไซเนอร์มีฝีมือดีให้กับวงการดีไซน์ไทย
• ก่อตั้ง Design Service โดยเปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยทาง Propaganda มีหน้าที่ช่วยดีไซน์รูปแบบสินค้าให้กับผู้มาใช้บริการ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมไทยที่ต้องการพัฒนาตนเองในเรื่องของการดีไซน์ โดยยังคงแบรนด์ของผู้ว่าจ้างไว้
• ได้รางวัลทุกปีในการประกวด นั่นคือ พัฒนาการทางด้าน Product จนกระทั่งถึงว่า คนรู้จักPropagandaในแง่ของ Product Design ที่เป็นของใช้ ของตกแต่งบ้านเป็นหลัก แต่ว่าทุกวันนี้มันก็ Shift เป็นเรื่องของของใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นEveryday Living ไปแล้ว
• เอกลักษณ์ของโปรดัก ที่ขายตัวเองได้อยู่แล้ว คือเน้น ความแตกต่าง โดดเด่น เท่ห์ มีความกวนอยู่ในตัว เห็นสินค้าแล้วลูกค้าต้องยิ้ม ต้องหัวเราะได้ สอดไส้อารมณ์ขันแบบไทยๆเข้าไปเสมอ และให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียด
  
  
  
  
  
  
  
  
  Brand Loyalty
  อยู่ที่เอกลักษณ์ และความชอบ

• แม้หลายคนจะมองว่า สินค้าดีไซด์ ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิต แต่ก็ยังมีคนอีกหลายกลุ่มที่มองเห็น ชอบและให้ความสำคัญ เลือกของใช้ที่Add Value ด้านดีไซด์ ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งให้คุณค่าด้านความรู้สึกที่มากกว่า ลูกค้าอาจจะเป็นวัยทำงาน หรือเป็นเพียงเด็กมัธยมปลาย หรือใครก็ได้ ที่มีสไตล์การชอบ วิถีของPropaganda อันเป็นเอกลักษณ์ สินค้ามีลูกเล่น เช่นจาก แมกซ์เย็บกระดาษธรรมดา ก็เพิ่มลูกเล่น โดยใส่หัวปลาฉลามเข้าไป เป็นลูกเล่นที่ทำให้ชีวิตไม่จำเจ ตามคอนเซปของPropagandaที่ต้องใส่อารมณ์ขันเข้าไปในชีวิตเสมอ
  
  
  
  Brand Quality (perception)
  
• อยู่ในระดับที่ตลาดต่างประเทศยอมรับ เห็นได้จากกระแสตอบรับจากงานแฟร์ต่างๆ และยอดขายกว่า80% ที่มาจากต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นจุดมุ่งหมายหลักของPropagandaเนื่องจากตลาด
• สร้างผลงานที่ได้รับรางวัลระดับโลกอย่างต่อเนื่อง รางวัลที่ได้ เช่น
  - Shark ที่เปิดขวดรูปครีบฉลามได้รับรางวัล Good Design Award 2001 ประเภท Tabletop/Housewares จาก The Museum of Architecture and Design, USA
  - กระปุกใส่เกลือและพริกไทย รางวัล Good Design Award 2002 ประเภท Tabletop/Housewares จาก The Museum of Architecture and Design ประเทศอเมริกา
  - ถาดใส่ผลไม้พร้อมมีด (AP-PEEL) ได้มามากที่สุดทั้งหมด 3 รางวัล ได้แก่ รางวัล 2002 จาก G-Mark ประเทศญี่ปุ่น Red Dot Award จากประเทศเยอรมัน และรางวัลที่ได้จาก the Chicago Athenaeum: Museum of Architecture and Design ประเทศอเมริกา และ ‘Melting Bulb’ ได้รับรางวัล ‘Good Design 2002’ จากประเทศสหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกัน
  
  
  Brand Association
  
• "Sense of Humor"
  
• · Propaganda ไม่ใช่แค่สินค้า แต่เป็นดีไซน์ แบรนด์
  ·
• สินค้าของ Propaganda ก็ไม่ได้จัดเป็น Category ที่แน่นอนว่าเป็น Tableware หรือ Kitchenware เหมือนสินค้าประเภทอื่น กล่าวได้ว่า Propaganda ทำสินค้าดีไซน์ทุกประเภท โดยเพิ่มความพิเศษด้วยการ Add Value ให้กับสินค้า เพื่อที่จะให้สินค้าตัวนั้นโดดเด่น มีความพิเศษกว่าสินค้าอื่น โดย Value ที่ทาง Propaganda ให้ความสำคัญ คือ ความสนุกสนาน Mr.P เป็นตัวอย่างของการใส่ความสนุกสนาน ที่สามารถเรียกรอยยิ้มจากผู้พบเห็นได้อย่างง่ายดาย หรือการต้องมีส่วนร่วมในการประกอบสินค้า เช่น กรอบรูปที่ผู้ใช้ สามารถต่อให้เป็นรูปทรงได้ตามใจชอบ ซึ่งนับเป็นลูกเล่นอย่างหนึ่งที่ทีมดีไซเนอร์ของ "Propaganda" พยายามให้ปรากฏอยู่ในสินค้า นอกเหนือไปจากเอก ลักษณ์ของสินค้าที่ให้ความรู้สึก "Sense of Humor" ที่บ่งบอกถึง "อารมณ์ขัน" "ความคาดไม่ถึง" และ "ความฉลาดของผู้ใช้" อันเป็นโจทย์หลักที่ดีไซเนอร์ทุกคนใช้
  
  Protection
• Propaganda ได้ดำเนินการจดลิขสิทธิ์ของสินค้าในประเทศไทย ฝรั่งเศส อเมริกา และอีกมากกว่า 14 ประเทศแล้ว
  
  
  
  ภายใต้แนวคิดอะไร ที่เป็นแรงผลักดันความสำเร็จในการสร้างคุณค่าของแบรนด์
  
• · Emotional Design
• งานดีไซด์ที่มีรากฐานอันชัดเจน และเป็นเอกลักษณ์ที่แข็งแกร่ง

- มีรากเหง้าที่เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม คือสะท้อนความเป็นไทย ซึ่งไม่ได้สะท้อนออกมามาโดยการเป็นสินค้าที่ใช้ผักตบชวามาทำ หรือใช้ลวดลายแบบไทยๆ แต่สะท้อนความเป็น คนไทย ตรงที่ คนไทยเป็นคนมีอารมณ์ขัน สบายๆ ง่ายๆ

- มีความเป็นสากลที่ยังคงเสน่ห์แบบไทย นั่นคือ Mr.P ที่เป็นสัญลักษณ์ของPropaganda ที่สื่อออกมาเป็นภาษาสากล แต่ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ของความเป็นไทย คือคนไทย ชอบปาร์ตี้ สังสรรค์ มีความทะลึ่งทะเล้น ความสบาย มีอารมณ์ขัน นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ

- เป็น Original Design ไม่ใช่Copy Design และมีความเป็นUnique เพราะเบื้องหลังของสินค้าแต่ละตัว นั้น มีวิธีคิด มีเรื่องราว เรื่องเล่าเฉพาะตัวของมัน สินค้าจึงแข็งแกร่งและมีเสน่ห์ด้วยตัวของมันเอง

• วิธีคิดของ Propaganda

- กล้าเสี่ยง หากไม่เป็นเพราะผู้บริหารของ Propaganda กล้าเสี่ยงที่จะออกสินค้า ที่คนทั่วไปอาจจะมองว่า คนซื้อเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆกลุ่มเดียว วันนี้แบรนด์นี้คงยังไม่เกิด ความเสี่ยงเป็นสาระสำคัญในการทำให้เกิดธุรกิจใหม่ เป็นแบรนด์ที่ กล้า ทำสิ่งใหม่ๆซึ่งคนอื่นไม่เคยทำมาก่อนและวันหนึ่งประสบความสำเร็จจนถูกยอมรับ กลายเป็นโมเดลให้คนอื่นๆมาเรียนรู้ถึงวิธีคิด

- กล้าลงทุนในเรื่องของการสร้าง แบรนด์ ในระยะเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์ Propaganda ลงทุนไปออกงานแฟร์ในต่างประเทศ 5-6ครั้งต่อปี เพื่อให้ผู้คนที่ชื่นชอบในเรื่องงานดีไซน์มีโอกาสได้เห็น ทำให้สามารถสร้างแบรนด์ในต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว

- ไม่ตามเทรนด์ของโลก เพราะเมื่อไหร่ที่ เฝ้ามองเทรนด์ของโลก และเลียนแบบว่าเขาทำ หรือไม่ทำ ชอบหรือไม่ชอบอะไร กลายเป็นเหยื่ออันโอชะให้เขาได้ครอบงำทางความคิดทันที จึงทำให้มีความเป็นตัวของตัวเองสูง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมันทำให้งานดีไซน์นี้มีเสน่ห์อย่างมากในตลาดโลก

- มีจินตนาการ สินค้าหลายตัวของบริษัท เป็นเรื่องของการเพ้อฝันที่มาผนวกรวมกับพฤติกรรม และไลฟ์สไตล์ของคนไทย กลายเป็นสินค้าใหม่ ที่ดีไซน์ออกมาโดนใจคน เช่นDog Lamp

- วัฒนธรรมองค์กร ในเรื่องของวิธีคิดต้องแข็งแรง ดีไซน์เนอร์ของ Propaganda ต้องลืมคำว่า เดินตามหลังผู้ใหญ่ หมาไม่กัด หรืออย่าทำตัวเด่นจะเป็นภัย ทุกคนต้องคิดนอกกรอบ ต้องกล้าทำในสิ่งที่ตัวเองคิด ปล่อยความคิดออกไปให้สุดโดยไม่ต้องสนใจใคร

- จุดขายของ Propaganda ชัดเจนไม่เคยปลี่ยน คือ เป็น emotional design ที่ เกี่ยวกับ อารมณ์ขัน เริ่มตั้งแต่ ทำจานที่ขาวสะอาดแต่มีแมลงวันเกาะ โคมไฟรูปฟันที่มีความขาว จนกลายเป็นแสงสะท้อนออกมา จนถึงโปรดักส์ ที่กำลังขายดีคือMr.P ซึ่ง สร้างเป็นรอยยิ้มและเสียงให้กับคนได้ทุกมุมโลก

- แง่การผลิต จำนวนสินค้าที่ผลิตออกมาจะไม่มาก ไม่ได้ขายแบบเกลื่อนเมือง อย่างสินค้าเล็กๆ ของกระจุกกระจิกก็จะผลิตกันในหลักพัน สัก 3-5 พัน ถ้าสินค้าชิ้นใหญ่หน่อย อย่างโคมไฟก็จะผลิตที่ 500-1,000 ชิ้นเท่านั้น (Niche Market )

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
Ø http://www.propagandaonline.com/
Ø http://www.marketeer.co.th/
Ø /http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=3363
Ø http://www.brandage.com/Modules/DesktopModules/Article/ArticleDetail.aspx?tabID=2&ArticleID=677&ModuleID=21&GroupID=322
Ø http://ibtimesthailand.solupress.com/ibtimesthailand/news/printerfriendly.asp?articleid=55
Ø หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- จันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2552


รายชื่อสมาชิก
นาย ศิวพงษ์ จันทรา 1500311970
นาย เมธี สุพรรณพงษ์ 1500315179
นางสาว ปัณรสี แจ่มแจ้ง 1510332008